แนะนำวิธีกินขมิ้นชัน กินให้ถูกเวลา จะช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ และบำรุงสมอง


ขมิ้นชันอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และเกลือแร่ต่าง ๆ รวมไปถึงเส้นใย คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน เป็นต้น และขมิ้นชันมีสรรพคุณทางยาที่รักษาอาการและโรคต่าง ๆ
ปัจจุบันมีงานวิจัยพบว่า ช่วงเวลาในการกินขมิ้นชันก็สำคัญ งานวิจัยพิสูจน์สรรพคุณของขมิ้นตามการใช้แบบโบราณ พบว่ามีสรรพคุณสูงอย่างไรก็ตาม หลายคนเมื่อรับประทานแล้วไม่ได้ผล ต้องกลับมาดูว่า รับประทานอย่างไร วันนี้นายข้าวต้มจึงขอนำเสนอ วิธีกินขมิ้นชัน กินให้ถูกเวลาช่วยป้องกันโรคมะเร็งและบำรุงสมองได้ด้วยส่วนกินเวลาไหนบ้างนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า…

ขมิ้น หรือ ขมิ้นชัน ชื่อสามัญ Turmeric  เป็นพืชล้มลุกที่จัดอยู่ในตระกูลขิง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้าจะเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีตั้งแต่สีเหลืองเข้มจนถึงสีแสดจัด โดยถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีชื่ออื่น ๆ อีก เช่น ขมิ้นชัน ขมิ้นแกง ขมิ้นหยอก ขมิ้นหัว ขี้มิ้น หมิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละภาคและจังหวัดนั้น ๆ นิยมนำไปใช้ในการประกอบอาหาร แต่งสี แต่งกลิ่นอาหาร เช่น แกงไตปลา แกงกะหรี่ เป็นต้น
งานวิจัยของมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรระบุถึงการรับประทานขมิ้นชันให้ได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อกินตามเวลาและตรงจุดตรงปัญหา ขมิ้นชันมีประโยชน์และสรรพคุณหลายประการ กินขมิ้นชันตามเวลาต่อไปนี้ จะได้ผลโดยตรงกับอวัยวะที่ต้องการ
เวลา 03.00 – 05.00 น.
ช่วยบำรุงปอด ช่วยทำให้ปอดแข็งแรง ช่วยเรื่องภูมิแพ้ของจมูกที่หายใจไม่สะดวก และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ผิวหนัง
เวลา 05.00 – 07.00 น.
ช่วยแก้ปัญหาลำไส้ใหญ่ ถ้าเคยกินยาถ่ายมาเป็นเวลานาน ให้กินขมิ้นชันเวลานี้ ขมิ้นชันจะฟื้นฟูปลายประสาทของลำไส้ใหญ่ แต่ต้องกินเป็นประจำ ถึงจะทำให้ลำไส้ใหญ่บีบรัดตัวเพื่อขับถ่ายอย่างปกติ แก้ปัญหาลำไส้ใหญ่กลืนลำไส้เล็ก หรือลำไส้ใหญ่มีปัญหาถ่ายมากเกินไปหรือถ่ายน้อยเกินไป
ถ้าลำไส้ใหญ่มีปัญหา ให้กินขมิ้นชันพร้อมกับสูตรโยเกิร์ต นมสด น้ำผึ้ง มะนาวหรือน้ำอุ่นก็ได้ จะไปช่วยล้างผนังลำไส้ที่มีหนวดเป็นขนเล็กๆ อยู่เป็นล้านๆ เส้น ซึ่งขนเหล่านี้มีหน้าที่ดูดซึมสารอาหารเพื่อไปสร้างเม็ดเลือด ขมิ้นชันจะช่วยล้างให้สะอาดได้ ทำให้ไม่ค่อยมีขยะตกค้าง จึงไม่เกิดแก๊สพิษที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว และไม่เป็นริดสีดวงทวาร ไม่เป็นมะเร็งลำไส้
07.00 – 09.00 น.
ช่วยแก้ปัญหาเรื่องกระเพาะอาหาร เกิดจากการกินข้าวไม่เป็นเวลา ท้องอืด จุกแน่น ปวดเข่า ขาตึง ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันความจำเสื่อม
09.00 – 11.00 น.
ช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำเหลืองเสีย มีแผลที่ปาก อ้วนเกินไป ผอมเกินไปที่เกี่ยวกับม้าม ลดอาการของโรคเก๊าต์ ลดอาการเบาหวาน
11.00 – 13.00 น.
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ จะช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
13.00 -15.00 น.
ขมิ้นชันจะไปทำงานที่ตับ แล้วตับจะส่งมาที่ปอด ส่งต่อไปยังผิวหนัง แต่ส่วนมากมาไม่ถึงเพราะกินขมิ้นชันน้อยเกินไป อวัยวะส่วนอื่นจะดึงไปใช้งานก่อนเลยมาไม่ถึงผิวหนัง จึงต้องลงขมิ้นชันทางผิวหนังช่วยอีกทางหนึ่ง
15.00 – 17.00 น.
ช่วยดูแลหูรูดกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง แก้ปัญหาเรื่องตกขาวของสตรี และควรกินน้ำกระชายเวลานี้ด้วย จะช่วยดูแลหูรูดกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง ช่วงเวลานี้ควรทำให้เหงือกออกจะดีมาก เพราะร่างกายต้องการขับสารพิษให้ได้มากที่สุดในเวลานี้
17.00 น.-ก่อนนอน
ถ้ารับประทานเลยเวลาจากช่วงนี้ จนไปถึงการกินก่อนนอน ขมิ้นชันจะไปช่วยเรื่องความจำให้ความจำดี กินขมิ้นชันก่อนนอนจะทำให้เวลาตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้าจะไม่ค่อยอ่อนเพลีย และช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น กินขมิ้นชันมาก ๆ จะช่วยขับไล่ไรฝุ่นที่ผิวหนัง ไม่เป็นผดผื่นคันง่าย ๆ และช่วยขับไขมันในตับ
ถ้ากินขมิ้นชันทุกวัน ขมิ้นชันมีวิตามิน เอ, ซี, อี ที่เข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำงานพร้อมกันทั้งสามตัว จึงมีผลช่วยลดไขมันในตับ สมานแผลภายในกระเพาะอาหาร ช่วยย่อย ทำความสะอาดลำไส้ เปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ ต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็งตับ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนัง กำจัดเชื้อราที่ปนเปื้อนในอาหารที่รับประทานเข้าไปและสะสมในร่างกายเตรียมก่อตัวเป็นเซลล์มะเร็ง ช่วยขับน้ำนมสำหรับสตรีหลังการคลอดบุตร ประโยชน์เยอะจริงๆ ถึงอย่างนั้นแล้วขมิ้นชันก็มีผลข้างเคียงคือ อาการแพ้ เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ ดังนั้นหากคุณรับประทานขมิ้นแล้วมีอาการดังกล่าว ควรหยุดรับประทานนะ
ที่มา...naykhaotom.com 
أحدث أقدم