สิวหัวช้าง สิวอักเสบขนาดใหญ่ที่ทำเอาใครหลายๆคนเจ็บ!จนแทบน้ำตาเล็ดกันมาแล้วค่ะ สิวหัวช้าง มีสาเหตุมาจากหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นระดับฮอร์โมนในร่างกาย กรรมพันธุ์ รวมไปถึงการแพ้ยา ครีม และเครื่องสำอางบางชนิด ที่ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญของการเกิดสิวเลยก็ว่าได้ค่ะ
สำหรับหนุ่มๆสาวๆที่เคยเป็นสิวหัวช้างมาก่อน แน่นอนว่าหลายคนที่เคยเป็นย่อมต้องเคยเจอกับปัญหาหลุมสิว รอยดำ หรือรอยแดงบนใบหน้า เมื่อหลังจากที่เรากำจัดสิวหัวช้างด้วยการบีบออก หรือการกดด้วยที่กดสิว สุดท้ายก็ต้องมาปวดหัวกับวิธีลบเลือนรอยสิวกันอีกรอบ วันนี้ไข่เจียวมีเคล็ดกำจัดสิวหัวช้างอย่างถูกวิธี เพื่อให้สิวหาย ไร้รอยดำ และหลุมสิว ถ้าพร้อมกันแล้วมาจัดการสิวกันเลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1 สำหรับคนที่กำลังมีสิวหัวช้างขึ้นใหม่ๆ ขอแนะนำเลยว่าต้องมีความอดทน และห้ามบีบสิวออกก่อนเวลาอันควรอย่างเด็ดขาดค่ะ จากนั้นให้นำเอาน้ำมะนาวมาทาที่หัวสิวและบริเวณที่รอบๆ โดยให้ทาทุกๆครึ่งชั่วโมง (ใช้คอตตอนบัดจุ่มน้ำมะนาว เลือกที่สำลีฟูๆหน่อยก็ดีค่ะ) ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบ 24 ชั่วโมง ก่อนนอนก็ต้องทานะคะ หลังจากนั้นเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าจะพบว่าสิวที่บวมเบ่งจะค่อยๆลดลง พยายามทำไปเรื่อยๆ อย่าใจร้อนนะคะ เพราะวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยจากสารเคมีนั้นต้องใช้เวลานะคะ
ขั้นตอนที่ 2 เมื่อสิวเริ่มยุบตัวลงแล้วก็ให้นำเอาหอมแดงมามาทุบแล้วบีบเอาแต่น้ำ เมื่อได้แล้วให้นำไปแช่ตู้เย็นสักประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง เวลาทาจะได้ไม่ทำให้แสบผิว จากนั้นก็ใช้สำลีชุบน้ำหัวหอมมาทาหรืออาจจะประคบบริเวณที่เป็นรอยสิวหรือรอยด่างดำจากสิว โดยให้ทาทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก
สำหรับขั้นตอนนี้ขอแนะนำให้ทำเช้า-เย็นนะคะ คือต้องทาไปเรื่อยๆจนกว่ารอยสิวจะค่อยๆจางลงไปค่ะ (คนที่ไม่มีหอมแดงใช้กระเทียมแทนก็ได้ค่ะ เนื่องจากทั้งสองชนิดมีสารช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเองค่ะ)
ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนนี้จะเป็นช่วงของการฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาสวย ขาวใส เปล่งปลั่ง และต้องทำควบคู่ไปกับขั้นตอนที่ 2 นะคะ นั่นก็คือการหาไปค้นหาของในครัว (อีกแล้ว) มาประทินโฉมนั่นเองค่ะ
สำหรับขั้นตอนนี้ขอบอกเลยว่ามีทั้ง "การดื่ม" และ "ทา" ซึ่งสิ่งที่คุณต้องไปหามาก็คือ "น้ำมะเขือเทศ" และ "มะเขือเทศลูกสุกๆแดงๆ" นั่นเองค่ะ
ในช่วงเวลาที่เรากำลังรักษาสิวนั้น แน่นอนว่าการน้ำมะเขือเทศที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินเค และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น
หากใครที่สามารถดื่มน้ำมะเขือเทศเป็นประจำทุกวันนั้น ขอบอกว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพและผิวพรรณมากๆค่ะ เนื่องจากมะเขือเทศมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ชื่อว่า ไลโคปีน ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิด มะเร็งลำไส้ และ มะเร็งต่อมลูกหมาก พร้อมกับช่วยให้ระบบการย่อยและการขับถ่ายดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
หลังจากที่ดื่มน้ำมะเขือเทศไปเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ ซึ่งวิธีการทำก็ง่ายๆค่ะ เพียงแค่นำเอามะเขือเทศสุกดีแล้วมาบดให้ละเอียด แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ แนะนำว่าให้ทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์ รอยสิวก็จะค่อยๆหาย แถมยังได้ใบหน้าขาวสวยผุดผ่อง..แลดูสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ
ขอบขอบคุณที่มา : bedtaledidea.blogspot.com
สำหรับหนุ่มๆสาวๆที่เคยเป็นสิวหัวช้างมาก่อน แน่นอนว่าหลายคนที่เคยเป็นย่อมต้องเคยเจอกับปัญหาหลุมสิว รอยดำ หรือรอยแดงบนใบหน้า เมื่อหลังจากที่เรากำจัดสิวหัวช้างด้วยการบีบออก หรือการกดด้วยที่กดสิว สุดท้ายก็ต้องมาปวดหัวกับวิธีลบเลือนรอยสิวกันอีกรอบ วันนี้ไข่เจียวมีเคล็ดกำจัดสิวหัวช้างอย่างถูกวิธี เพื่อให้สิวหาย ไร้รอยดำ และหลุมสิว ถ้าพร้อมกันแล้วมาจัดการสิวกันเลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1 สำหรับคนที่กำลังมีสิวหัวช้างขึ้นใหม่ๆ ขอแนะนำเลยว่าต้องมีความอดทน และห้ามบีบสิวออกก่อนเวลาอันควรอย่างเด็ดขาดค่ะ จากนั้นให้นำเอาน้ำมะนาวมาทาที่หัวสิวและบริเวณที่รอบๆ โดยให้ทาทุกๆครึ่งชั่วโมง (ใช้คอตตอนบัดจุ่มน้ำมะนาว เลือกที่สำลีฟูๆหน่อยก็ดีค่ะ) ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบ 24 ชั่วโมง ก่อนนอนก็ต้องทานะคะ หลังจากนั้นเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าจะพบว่าสิวที่บวมเบ่งจะค่อยๆลดลง พยายามทำไปเรื่อยๆ อย่าใจร้อนนะคะ เพราะวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยจากสารเคมีนั้นต้องใช้เวลานะคะ
ขั้นตอนที่ 2 เมื่อสิวเริ่มยุบตัวลงแล้วก็ให้นำเอาหอมแดงมามาทุบแล้วบีบเอาแต่น้ำ เมื่อได้แล้วให้นำไปแช่ตู้เย็นสักประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง เวลาทาจะได้ไม่ทำให้แสบผิว จากนั้นก็ใช้สำลีชุบน้ำหัวหอมมาทาหรืออาจจะประคบบริเวณที่เป็นรอยสิวหรือรอยด่างดำจากสิว โดยให้ทาทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก
สำหรับขั้นตอนนี้ขอแนะนำให้ทำเช้า-เย็นนะคะ คือต้องทาไปเรื่อยๆจนกว่ารอยสิวจะค่อยๆจางลงไปค่ะ (คนที่ไม่มีหอมแดงใช้กระเทียมแทนก็ได้ค่ะ เนื่องจากทั้งสองชนิดมีสารช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเองค่ะ)
ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนนี้จะเป็นช่วงของการฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาสวย ขาวใส เปล่งปลั่ง และต้องทำควบคู่ไปกับขั้นตอนที่ 2 นะคะ นั่นก็คือการหาไปค้นหาของในครัว (อีกแล้ว) มาประทินโฉมนั่นเองค่ะ
สำหรับขั้นตอนนี้ขอบอกเลยว่ามีทั้ง "การดื่ม" และ "ทา" ซึ่งสิ่งที่คุณต้องไปหามาก็คือ "น้ำมะเขือเทศ" และ "มะเขือเทศลูกสุกๆแดงๆ" นั่นเองค่ะ
ในช่วงเวลาที่เรากำลังรักษาสิวนั้น แน่นอนว่าการน้ำมะเขือเทศที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินเค และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น
หากใครที่สามารถดื่มน้ำมะเขือเทศเป็นประจำทุกวันนั้น ขอบอกว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพและผิวพรรณมากๆค่ะ เนื่องจากมะเขือเทศมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ชื่อว่า ไลโคปีน ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิด มะเร็งลำไส้ และ มะเร็งต่อมลูกหมาก พร้อมกับช่วยให้ระบบการย่อยและการขับถ่ายดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
หลังจากที่ดื่มน้ำมะเขือเทศไปเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการพอกหน้าด้วยมะเขือเทศ ซึ่งวิธีการทำก็ง่ายๆค่ะ เพียงแค่นำเอามะเขือเทศสุกดีแล้วมาบดให้ละเอียด แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ แนะนำว่าให้ทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์ รอยสิวก็จะค่อยๆหาย แถมยังได้ใบหน้าขาวสวยผุดผ่อง..แลดูสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ
ขอบขอบคุณที่มา : bedtaledidea.blogspot.com