ฝ้า กระและจุดด่างดำ บนใบหน้า นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ ที่หนักอกหนักใจไม่น้อยเลยนะคะ นอกจากจะบดบังความงามของใบหน้าแล้ว ยังทำให้ขาดความมั่นใจ บางคนอาการหนักถึงขึ้นกล้าสบตากับคนอื่นเลยค่ะ และในวันนี้เรามีวิธีรักษาฝ้าง่ายๆจาก วัตถุดิบได้จากธรรมชาติ ประหยัดและปลอดภัย ว่าแล้ว เราไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
นำมะนาวสอมาบีบเอาเฉพาะน้ำ จากนั้นนำน้ำมะนาวมาทาบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำเช่นนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้รอยฝ้าค่อยๆจางลง ผิวหน้าดูขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติจนคุณสังเกตได้ มะนาวจะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ น้ำมะนาวสดไปกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก ช่วยให้ฝ้าจางลง และยังช่วยทำให้ใบหน้าขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติขึ้นอีกด้วยนะ
2. ใบบัวบก
มีการวิจัยพบว่าสรรพคุณจากใบบัวบกนั้นจะช่วยรักษาโรคผิวหนังได้ โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีปัญหาฝ้า กระและสิว เพียงคั้นน้ำสดแล้วดื่มเย็นๆ เป็นประจำทุกวันหรือนำมาปั่นแล้วเช็ดแทนโทนเนอร์ก่อนนอนทุกคืนก็ได้เช่นกัน รับรองว่าใบหน้าที่มีปัญหาผิวดังกล่าวจะต้องเลือนหายไป เหลือเพียงผิวหน้าเนียนใสปิ๊งอย่างแน่นอนค่ะ
3. หัวไชเท้า
นำหัวไชเท้ามาล้างให้สะอาด แล้วปอกเปลือกออก นำไปหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วปั่นให้ละเอียด นำมาพอกไว้ให้ทั่วหน้าหรือบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยทำเช่นนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้รอยฝ้าจางลงจนคุณสังเกตได้
4. มะขามเปียก
นำเนื้อมะขามเปียกผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย มาพอกหรือทาบางๆ บริเวณผิวที่เป็นรอยฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยทำเช่นนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รอยฝ้ารอยฝ้า กระและจุดด่างดำจะค่อยๆ จางลงจนสังเกตได้ เพราะมะขามเปียกจะทำหน้าที่กระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก และยังช่วยให้ใบหน้าขาวใสขึ้นอีกด้วยค่ะ
5.ไข่ขาว
นำไข่ขาวมาทาบริเวณผิวที่มีฝ้าให้ทั่วหรือทาพอกให้ทั่วทั้งหน้าก็ได้เช่นกัน ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หมั่นทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รอยฝ้าจะค่อยๆจางลง และยังช่วยให้ผิวหน้าคุณก็จะขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ เนื่องจากไข่ขาวก็จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกออกจากผิวและทำให้รอยฝ้าจางลง หมดปัญหาฝ้ากวนใจสักทีค่ะ
6. น้ำแอปเปิลไซเดอร์
นำน้ำแอปเปิลไซเดอร์มาผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วใช้สำลีเช็ดให้ทั่วใบหน้า รอจนแห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหมั่นทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รอยฝ้าจะค่อยๆจางลงน้ำแอปเปิลไซเดอร์เป็นสารฟอกผิวที่มีประสิทธิภาพมาก โดยมีฤทธิ์กรด จึงช่วยทำให้รอยฝ้า รอยด่างดำ ดูจางลง และทำให้ผิวใสเนียนนุ่มน่าสัมผัส ยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
7. หอมหัวใหญ่
นำหอมหัวใหญ่ 2-3 หัว มาสับให้ละเอียด นำผ้าขาวบางมาห่อ จากนั้นก็บีบเอาน้ำหัวหอมใหญ่ออกมา จากนั้นนำน้ำหัวหอมใหญ่ที่ได้มาผสมกับน้ำส้มแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ในอัตราส่วนที่เท่ากัน ใช้สำลีก้อนชุบส่วนผสมที่ได้ จากนั้นนำไปทาบริเวณที่เป็นฝ้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น หมั่นทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รอยฝ้าจะค่อยๆจางลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากในหัวหอมใหญ่จะมีส่วนผสมของกำมะถันทำให้น้ำหัวหอมใหญ่สามารถแก้ฝ้าหรือทำให้ฝ้าจางลงได้ นอกจากนั้น น้ำหัวหอมใหญ่ยังช่วยบำรุงเซลล์ผิวอีกด้วย
8. ว่านหางจระเข้
นำเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้มาทาผิวหน้าบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยทำเช่นนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้รอยฝ้าจางลงจนคุณสังเกตได้ ว่านหางจระเข้ ถือเป็นสมุนไพรใช้รักษาแผล และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำบนผิวหน้าได้ด้วย อีกทั้งยังมีกรดอ่อนๆ ที่ช่วยลดความมันบนใบหน้ายอดนิยมมากๆ
9. ข้าวโอ๊ต (Oatmeal)
นำข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะ นมสด 2 ช้อนโต๊ะ และ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน นำไปทาบริเวณที่เป็นฝ้า หรือมีรอยจุดด่าง ดำ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ทำต่อเนื่องประมาณ 1 เดือนจะสังเกตได้ว่ารอยฝ้าเริ่มจางลง เนื่องจากข้าวโอ๊ตช่วยทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้จุดด่างดำบนใบหน้าลบเลือนลง และช่วยให้ผิวหน้าสว่างกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
10. ขมิ้น
นำผงขมิ้นปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะ กับนมสดปริมาณ5 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน นำส่วนผสมที่ได้มาทาบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นใช้น้ำอุ่น โดยทำเช่นนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้รอยฝ้าจางลง ผิวหน้าดูขาวขึ้นจนคุณสังเกตได้ เนื่องจากขมิ้นสามารถช่วยลดสารเมลานินบนผิวหนังได้ อีกทั้งยังช่วยกำจัดฝ้าให้จางลงได้อีกด้วย เคอคูมินเป็นส่วนประกอบหลักในขมิ้น มีคุณสมบัติพิเศษทำให้ผิวเรากระจ่างใสขึ้น และยังเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
การมีผิวหน้าขาวสวยใส ไร้ฝ้า ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ และยังเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายๆ ช่วยประหยัดสตางค์ในกระเป๋าเราอีกด้วย หากใครที่กำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ ลองนำวิธีที่เรานำมาฝากไปทดลองทำกันดูนะคะ รับรองเลยค่ะว่า ทุกคนต้องปลื้มอย่างแน่นอน
ขอบคุณที่มาจาก : Kaijeaw.com